ซีรี่ย์แฟนตาซีผจญภัยฉบับไลฟ์แอคชั่น ดัดแปลงจากแอนิเมชั่นในชื่อเดียวกัน เรื่องราวของสงครามสี่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ละเผ่าพันธุ์มีอาณาจักรของตนเองแต่ชาวไฟเข้ารุกรานชาติพันธุ์อื่น ๆ เพื่อเสาะหาอวตาร หรือบุคคลผู้มีพลังพิเศษสามารถควบคุมธาตุทั้ง 4 ได้ และตอนนี้ แอง เด็กชายที่ถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็งเป็นเวลาร้อยปี ได้ตื่นขึ้นและพบว่าผู้ควบคุมธาตุและคนอื่น ๆ ในเผ่าธาตุลมของตัวเองถูกชาวไฟกำจัดไปหมดแล้ว เขากลายเป็นผู้ควบคุมธาตุลมคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ และเขานี่เองที่จะกลายเป็นผู้นำแห่งความสมดุลและความปรองดองของโลก ในฐานะอวตาร รีวิวซีรี่ย์มาใหม่ 2024

Avatar: The Last Airbender (2024) เณรน้อย เจ้าอภินิหาร ซีรี่ย์ที่สร้างมาจากแอนิเมชั่นขึ้นหิ้งของอเมริกาตั้งแต่ปี 2005-2008 ซึ่งได้นำมาสร้างเป็นหนังในปี 2010 ของผู้กำกับ M. Night Shyamalan แต่ก็เจ๊งยับทั้งคำวิจารณ์และรายได้ กลายเป็นตราบาปของเรื่องนี้ที่คงไม่มีใครกล้าขุดกลับมาทำเป็น Live Action อีก จนกระทั่งเจ้าแห่งการดัดแปลง Live Action สตรีมมิ่งอย่าง Netflix เอากลับมาทำใหม่ ซึ่งก่อนนี้ก็คือได้กระแสดีมาตั้งแต่วันพีช จึงทำให้เรื่องนี้ดูมีความกู้ชีพกลับมาได้ แล้วก็ต้องบอกว่านี่เป็นผลงาน Live Action ที่ภาพรวมทุกจุดลงตัวยิ่งกว่าวันพีชและดีอันดับต้นๆ ของการดัดแปลงในสตรีมมิ่งนี้เลย

จุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้ขึ้นหิ้งจริงๆ ตั้งแต่แอนิเมชั่นก็คือการเล่าเรื่องดราม่าของตัวละครที่ลุ่มลึกมาก (ขนาดที่ดราก้อนบอลกลายเป็นเด็กน้อยมากไปเลย) ตัวละครหลักในเรื่องนี้แทบทุกคนมีปมร้าวลึกอยู่ในใจที่ไม่อาจจะบอกได้ว่า นี่คือคนดีหรือคนไม่ดี หรือการกระทำที่เห็นนั้นชั่วร้ายหรือถูกต้องหรือไม่ แม้แต่การกระทำของแองที่มีความคิดแบบเด็กๆ ก็มีทั้งความผิดพลาดและการมองโลกที่แตกต่างไปทำให้มีทางออก โดยเฉพาะตัวละครร่างอวตารอดีตชาติก่อนๆ ที่แองต้องย้อนกลับไปรบกวนปรึกษาหาคำชี้แนะจากพวกเขา ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวคิดของตัวเอง แถมยังขัดแย้งกันเองแม้จะเป็นผู้อวตารเหมือนกัน แต่ก็มีจุดร่วมที่เห็นตรงกันบางอย่าง

ซึ่งเรื่องไม่ได้บอกว่าใครถูกหรือผิด และให้แองค้นหาตัวเองกับเพื่อนๆ หลอมรวมสิ่งที่ควรเป็นในปัจจุบัน โดยมีเรื่องราวในอดีตเป็นที่ปรึกษาสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งแม้แต่ตัวร้ายของเรื่องเผ่าไฟอย่างซูโกกับอา ก็ยังมีความลึกในเรื่องความดีความชั่วตามหลักการเดินทางชีวิตที่ซื่อตรงกับกฏทหาร แต่สิ่งนั้นทำร้ายโลกหรือกับตัวเขาเองอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ตัว โดยมีอาที่ผ่านโลกมามากจะคอยเตือนกับขัดเกลานิสัยของเขาให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ชมได้เห็นอีกด้านของสงครามที่แม้จะเป็นฝ่ายตัวร้ายก็มีเหตุผลและความจำเป็นลึกๆ ที่ผู้ชมก็ต้องรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละครเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้มีความเป็น Coming of Age สูงมาก ทำให้ตัวละครได้ก้าวพ้นเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่กันทุกคน